น้อย โพธิ์งาม คนบันเทิง ร่ำไห้อาลัย เพลิน พรหมแดน จากไปกะทันหัน ป๋าเทพ เกิดได้เพราะเพลิน พรหมแดน อยู่กันมา 9 ปี เป็นครอบครัว เป็นชีวิตจิตใจ ไม่คิดแกจะไป
วันที่ 13 ส.ค. 67 ที่ศาลาสารัชถ์-นลินีรัดนาวะดี วัดพระศรีมหาธาตุวรมหาวิหาร บางเขน กรุงเทพฯ สถานที่ตั้งบำเพ็ญกุศล ศิลปินแห่งชาติ เพลิน พรหมแดน หรือ ดร.สมส่วน พรหมสว่าง เสียชีวิตอย่างสงบในวัย 85 ปี เมื่อวันที่ 3 ส.ค. 67 ที่ผ่านมา
บรรยากาศในพิธีพระราชทานน้ำหลวงอาบศพวันนี้ มีครอบครัว ญาติมิตร เหล่าคนดังในวงการเพลงลูกทุ่ง เดินทางมาร่วมไว้อาลัยอย่างเนืองแน่นเต็มพื้นที่ศาลาวัด
น้อย โพธิ์งาม กล่าวว่า “เริ่มต้นความผูกพันกับพี่เพลิน เริ่มมาจากที่พี่เทพ (ป๋าเทพ โพธิ์งาม) เป็นคนพาน้อยไปฝากไว้กับพี่เพลิน และพี่ศกุนตลา ภรรยาของพี่เพลิน น้อยมาอยู่กรุงเทพฯ ตั้งแต่อายุย่าง 15 ปี ตอนแรกที่มา ยังไม่ใช่เป็นแดนเซอร์ บอกให้เป็นปีหน้า แต่พอได้เป็นน้อยก็ทำทุกอย่าง พอพี่เทพออกไป น้อยก็มาเป็นตลก”
ทราบไหมว่าที่ผ่านมา ครูเพลินมีโรคประจำตัวอะไรบ้างไหม?
น้อย โพธิ์งาม : “แกก็บอก แต่ตอนนั้นเราไม่ได้คิดอะไร ไม่คิดว่าแกจะล้มเร็วขนาดนั้น แต่ถามพี่ศกุนเล่าว่าพี่ได้ยินเสียงพานล้ม พี่เดินออกมาดูเห็นพี่เพลินเขานั่งอยู่ เดินไปสะกิดเขา แต่เขาไม่ลุก จึงรู้ว่าเขาไปแล้ว”
“เพลงพูด เรายังหาตัวแทนไม่ได้ เพลิน พรหมแดง เป็นคนแรกที่ร้องเพลงพูด หลายคนเกิดจากวง เพลิน พรหมแดง ไม่ว่าจะเป็น เพชร ดาราฉาย , จุ๋มจิ๋ม , ยอดธง , แดน บุรีรัมย์, ประยงค์ ชื่นเย็น , อุดม ชวนชื่น ฯลฯ
ด้าน ป๋าเทพ เผยว่า “วงพี่เพลินเป็นสถานที่เกิดของป๋าเลย ตั้งแต่เป็นหางเครื่อง เป็นนักร้อง สุดท้ายเป็นตลก อยู่กันมา 9 ปี เป็นครอบครัวกันมานาน เป็นชีวิตจิตใจ ไม่คิดนะว่าแกจะไป เพราะว่าที่ผ่านมาไม่มีข่าวว่าแกเจ็บป่วย แกไปเฉยๆ ถือว่าแกไปดีไม่ต้องเจ็บป่วยอะไร ป๋าไม่ได้เจอแกมานานแล้ว หลายปีเหมือนกัน”
“พี่เพลินเหมือนพี่ชายคนหนึ่งที่ดีทุกอย่าง แล้วเป็นคนธรรมะธัมโมมาก มาถึงบ้านก็ใส่ชุดนอนสีขาวก่อน เรื่องเสียหายไม่มี ไม่เคยได้ยินเป็นหัวหน้าที่ดูแลลูกน้องดีมากๆ วันนี้ดีใจที่ได้มาเจอเพื่อน เจอรุ่นน้อง ตั้งแต่เป็นหางเครื่อง”
ขณะที่ แพท ภัทริญา พรหมสว่าง ลูกสาวคนเดียว สุดเศร้า เผยสาเหตุ เพลิน พรหมแดน จากไปกะทันหัน ทั้งที่แข็งแรง เคยเปรยอยากอยู่ถึง 90
“คุณพ่อซึ่งไม่มีอาการอะไรเลยและค่อนข้างแข็งแรง แต่ว่า 2 วันก่อนหน้านั้น คุณพ่อบ่นว่าเหนื่อย แล้ววันที่ 2 ส.ค. คุณพ่อไปอรัญฯ ไปเรื่องที่ แล้วก็ไปเยี่ยมญาติตั้งแต่เช้า กลับมาตอนมืด พอวันที่ 3 ส.ค. ปกติกิจวัตรประจำวันของคุณพ่อ คือสวดมนต์ที่ห้องพระ แล้วก็จะออกมาทานข้าว แต่พอสวดมนต์แล้วเหมือนเหนื่อยและวูบ เลยจับเก้าอี้แล้วก็ล้มลงไป
“หน่วยกู้ชีพมาก็ปั๊มหัวใจ ปั๊มไปประมาณ 20 นาที สัญญาณชีพก็ขึ้นมาประมาณ 20 แล้วก็เอาขึ้นรถพยาบาลไป พอไปถึงโรงพยาบาลศิริราชก็ปั๊มต่อ หมอก็โทร.มาแจ้งว่าสัญญาณชีพอ่อนและไม่มีแล้ว ปั๊มอยู่ประมาณ 30 นาทีคุณพ่อก็เสียที่โรงพยาบาล คุณหมอลงความเห็นว่าเป็นโรคชรา และน่าจะเหนื่อยเพราะพักผ่อนน้อย”
